GoPro Hero7 Silver กล้อง Action Camera อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจของ GoPro Hero 7 และเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ ถูกดีไซน์ขึ้นสำหรับช่างภาพสายลุยที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว รักในการผจญภัย เอาไว้เก็บภาพหรือช็อตวิดีโอเจ๋งๆ ในช่วงเวลาสุดตื่นเต้น ที่สำคัญรุ่นนี้มีฟังก์ชั่นใหม่ๆจัดเต็มมาเพียบ ไม่แพ้กล้องท็อปคลาสอย่างรุ่น GoPro Hero7 Black มาทำความรู้จักกับกล้องรุ่นนี้กันเลยดีกว่าครับ
เริ่มกันที่ตัวบอดี้กันก่อนเลย บอดี้ของรุ่น Silver จะแตกต่างจากรุ่น Black ตรงที่ไม่มีจอ LCD ด้านหน้าที่จะบ่งบอกถึงสถานะของกล้องว่าเป็นฟังก์ชั่นใดอยู่ และตัวกล้องเป็นสีเทา ในส่วนรูปทรงของกล้องก็ยังคงคอนเซ็ปต์รุ่นเดิม คือบอดี้สี่เหลี่ยมกะทัดรัด พกพาสะดวก พร้อมสลักชื่อรุ่นไว้ที่ด้านข้างของตัวกล้องให้เห็นชัดเจนครับ
ในส่วนของอินเตอร์เฟส จะถูกปรับใหม่ทั้งหมด ซึ่งทำให้ใช้งานง่ายขึ้นมากๆ และดูทันสมัยมากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือน Smart Phone ดีๆเครื่องนึงเลย
ด้านซ้ายเป็นหน้าอินเตอร์เฟสของ GoPro Hero 6 ส่วนด้านขวาเป็นของ GoPro Hero 7 Silver
เมื่อต้องการเปลี่ยนฟังก์ชั่น ก็แค่ใช้นิ้วปัดซ้าย-ขวา สะดวกและรวดเร็วมากๆ โดยโหมดทางซ้ายสุดจะเป็นโหมดของการถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse ถัดมาทางขวามือจะเป็นโหมดถ่ายวิดีโอ ที่สามารถเลือกฟังก์ชั่นของวิดีโอได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายแบบ 4K, แบบตั้งเวลา 15 วินาที และถ่ายแบบสโลว์โมชั่นที่ 2x และสุดท้ายโหมดทางขวาสุดจะเป็นโหมดถ่ายภาพนิ่ง ซึ่งก็มีฟังก์ชั่นให้เลือกอีกเช่นเคย คือ การถ่ายแบบ Burst Photo และฟังก์ชั่นตั้งเวลาในการถ่ายภาพ
โหมด Time Lapse Video มีให้เลือกแบบ 4k กับปกติ
โหมดถ่ายวิดีโอ 4k, ตั้งเวลา 15 วิ และ สโลวโมชั่น
โหมดถ่ายภาพนิ่ง Burst Photo และตั้งเวลาการถ่าย
มาดูฟีเจอร์ที่น่าสนใจของรุ่นนี้กันเลยครับ
- หน้าจอ LCD ทัชสกรีน ขนาด 2 นิ้ว
- กล้องพร้อมความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
- ถ่าย slo-mo ได้ 2x
- ระบบกันสั่น Video Stabilization ลดการสั่นไหวขณะถ่ายวิดีโอ
- ถ่าย Time Lapse ได้
- ถ่ายวิดีโอ 4k ที่ 30 fps
- ดำน้ำได้ลึก 10 เมตรโดยไม่ต้องใส่เคสกันน้ำ
- รองรับการสั่งการด้วยเสียง
- โหมดถ่ายภาพ WDR (Wide Dynamic Range)
GoPro Hero 7 Silver สามารถถ่ายรูปและวิดีโอออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่แพ้ GoPro Hero7 Black เลย และด้วยความที่รุ่น Silver นี้ มีฟังก์ชั่นการถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse และแบบ 4k ได้ ทำให้ตอบโจทย์สาวก Action Cam เก็บช็อตสวยๆ ได้ดียิ่งขึ้นไปอีกครับ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง WDR (Wide Dynamic Range) ทำให้การถ่ายภาพนิ่งในแต่ละครั้งออกมาสมบูรณแบบมากๆ เพราะฟีเจอร์นี้จะช่วยให้เราถ่ายภาพในสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างของแสงสูง ซึ่งถือว่าเป็นฟังก์ชั่นที่ยอดเยี่ยมในการออกทริป เนื่องจากเราคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถ่ายภาพหนึ่งใบที่มีทั้งสว่างและมืดในภาพเดียวกัน ฟีเจอร์นี้ก็จะช่วยปรับแสงโดยอัตโนมัติให้ ทำให้การถ่ายภาพที่ท้าทายกลายเป็นเรื่องง่ายทันทีครับ
จากการที่ลองใช้งาน GoPro Hero 7 Silver แล้ว ถือว่าเป็นกล้องรุ่นหนึ่งที่ฟังก์ชั่นการใช้งานครบเครื่องมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปได้คมชัด ถ่ายวิดีโอระดับ 4K ซึ่งสามารถถ่ายได้ทั้งวิดีโอปกติและ Time Lapse Video จะหยิบขึ้นมาถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ สะดวก รวดเร็วมากๆ ผสานกับอินเตอร์เฟสที่ยกเครื่อง ปรับใหม่ทั้งหมดนั้น ส่วนตัวรู้สึกว่าใช้ง่ายขึ้นกว่ารุ่นก่อนพอสมควรเลยครับ
ความคมชัดของภาพนิ่งในรุ่นนี้ ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆครับ ถ้ามองในฐานะที่เป็นกล้อง Action Camera เพราะสามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน และด้วยความที่กล้อง GoPro จะมาพร้อมกับเลนส์ Fish eye ตั้งแต่รุ่นแรกมอยู่แล้ว ซึ่งทำให้มุมมองของภาพอาจจะดูแปลกตาไปสักหน่อย สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้งาน GoPro นี้ครับ แต่ก็ถือว่าภาพที่ได้นั้นน่าสนใจมาก วางองค์ประกอบภาพให้ดี ขยับซ้าย-ขวา เก็บได้ครบหมดทุกอย่าง และถ่ายสวยทุกช็อตแน่นอน
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอนั้น ด้วยความที่รุ่นนี้เพิ่มการถ่ายวิดีโอในระดับ 4K เข้ามา ซึ่งทำให้วิดีโอของเราดู Cinematic ขึ้นมากๆครับ ความคมชัดคงไม่ต้องพูดถึงเลย ชัดแน่นอนครับ เหมือนถือกล้อง Mirrorless ตัวนึงถ่ายวิดีโออยู่ พร้อมระบบกันสั่นในตัวที่อัจฉริยะมากๆ ตัวกล้องพร้อมขนาดนี้ ก็เหลือแค่หาโลเกชั่นดีๆ โอกาสเหมาะๆ แล้วออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่กันเลยครับ
สรุปก็คือ GoPro Hero 7 รุ่น Silver เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการกล้อง Action Camera ที่ฟังก์ชั่นครบ จบ ในตัวของมันเอง พกพาสะดวก ถ่ายง่าย จะภาพนิ่งก็ดี วิดีโอก็ได้ ถือซะว่าได้มีไอเท็มเจ๋งๆ ร่วมทริปเดินทาง และที่สำคัญสามารถเก็บภาพความทรงจำสุดประทับใจไว้ให้เราได้อีกด้วย
