Thailand English
 
Thailand English

 

 

5 เลนส์สุดคุ้มที่ช่างภาพสาย Wedding ต้องมี

 

หลายคนคงสังเกตช่างภาพสายเวดดิ้งมักมีกระเป๋ากล้องใบใหญ่ๆ พกไปในงานแต่งงานด้วย จึงเกิดความสงสัยว่ามีเลนส์อะไรบ้างที่อยู่ในกระเป๋าของช่างภาพเวดดิ้งบ้าง เพราะเลนส์ตามท้องตลาดก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งระยะเลนส์และค่ารูรับแสงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้ภาพแนวไหน ไปดูกันดีกว่าว่า 5 เลนส์ไหนบ้างที่ช่างภาพสายเวดดิ้งต้องมี

 

 

1. 70-200mm f2.8

 

 

แม้เลนส์ 70-200mm f2.8 จะมีขนาดใหญ่และอาจพกพาลำบากไปสักหน่อย แต่เราไม่สามารถถ่ายงานเวดดิ้งได้ดีหากไม่มีเลนส์ตัวนี้ เพราะเป็นเลนส์ที่น่าทึ่ง ให้ความคมชัดตลอดทุกทางยาวโฟกัส และยังมอบโบเก้ที่งดงามในวันสุดพิเสษของคุณได้อีก โดยเฉพาะในระยะ 200mm แม้ว่าจะปรับค่ารูรับแสง และด้วยระยะซูมที่ครอบคลุมของเลนส์รุ่นนี้ ทำให้คุณได้ภาพแคนดิดสวยๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระยะใกล้ๆ กับคู่บ่าวสาวเลย

 

 

 

 

 

เลนส์ 70-200mm เป็นเลนส์ระยะที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับการถ่าย Portrait เนื่องจากเมื่อเราถ่ายที่ 200mm และตั้งค่ารูรับแสงที่ f4 และ f 5.6 ที่สปีดชัตเตอร์ 1/200 - 1/400 ความคมชัดของภาพก็ยังยอดเยี่ยมอยู่ โดยมีฉากโบเก้ด้านหลัง และเลนส์รุ่นนี้ยังมี len collar ที่เราสามารถใช้ถือเพื่อถ่ายภาพได้อย่างมั่นคง หรือใครมีขาตั้งกล้องจะใช้ก็ได้ แต่ถ้าไม่มีขาตั้งกล้องจริงๆ ก็มีทริคง่ายๆ เช่นกัน โดยวางเลนส์ลงกับวัตถุที่มั่นคง เช่นโต๊ะ กำแพงและพื้น เพื่อลดการสั่นของกล้องได้ และต้องระวังเวลาใช้ทางยาวโฟกัสที่มากที่สุดของเลนส์รุ่นนั้นๆ

 

 

 

 

 

 

 

2. 24-70mm f2.8


เลนส์ 24-70mm f2.8 ให้ระยะของภาพที่คุณจำเป็นและเป็นเลนส์อีกหนึ่งรุ่นที่ต้องมี โดยเฉพาะในเวลาที่เรายุ่งๆ อยู่ในงานแต่งงาน ไม่มีเวลาเปลี่ยนไปใช้เลนส์ระยะอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นระยะครอบคลุมการถ่ายภาพได้มากที่สุด ซึ่งคุณสามารถใช้เลนส์ตัวนี้ในการเก็บโลเกชั่นกว้างๆ ได้ภาพบรรยากาศสุดซึ้งก็ได้ หรือจะแคนดิดคู่บ่าวสาว แขกเหรื่อที่เพิ่งมาถึง ผู้มาร่วมงานที่พูดคุยกันอย่างมีความสุขเพื่อรองานพิธีเริ่ม พร็อปตกแต่งและรายละเอียดในพิธีแต่งงาน เลนส์ระยะนี้ตอบโจทย์ของคุณได้ครบถ้วน

 

 

 

 

แต่ก็มีช่างภาพหลายคนที่ต้องการเลนส์ที่มีระยะกว้างขึ้นมาอย่าง 14-24 f2.8 เพื่อให้เห็นรายละเอียดอื่นๆ ในภาพได้กว้างขึ้น แต่ 24-70mm ก็สามารถทำได้ ถ้าคุณถ่ายภาพโลเกชั่นที่คุณต้องการหลายๆ ใบ ก่อนจะนำมาแต่งภาพรวมกันใน Photoshop เหมือนภาพ panorama แต่ต้องให้แน่ใจก่อนว่าภาพแต่ละใบนั้นมีการตั้งค่าการวัดแสงในภาพเหมือนๆ กัน

 

 

 

3. เลนส์ Fix 85mm

 

ผู้ที่ชื่นชอบการถ่าย Portrait ต้องไม่พลาดเลนส์ระยะนี้ ไม่ว่าจะเป็นถ่ายคู่บ่าวสาว เพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว รวมไปถึงแขกผู้มาร่วมงานกลุ่มเล็กๆ และเนื่องจากเป็นเลนส์ fix คุณจะต้องใช้การซูมเข้าและซูมออกโดยการเดินเข้าและเดินออก แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่า เพราะ Portrait ของคุณจะดูนุ่มนวล และจะถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีมาก

 

 


สิ่งที่หลงรักในเลนส์ตัวนี้คือความคมชัด เราต้องหาค่ารูรับแสงของเลนส์ที่คมชัดที่สุด แม่นยำ ไวต่อแสง และให้สีของผิวที่ดูนุ่มนวล ซึ่งเป็นเลนส์ที่ต้องพกติดกระเป๋ามากที่สุด และไม่ควรนำออกจากกระเป๋า เพราะเลนส์ Fix จะไวแสงมาก เนื่องจากมีค่ารูรับแสงกว้าง ที่สำคัญเลนส์มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย

 

 

 

 

 

4. เลนส์ 35mm

 

เลนส์อีกหนึ่งรุ่นที่ต้องมีนั่นคือเลนส์ 35mm f1.4 ซึ่งเป็นเลนส์ที่จะมอบความมั่นใจให้คุณได้อีกหนึ่งรุ่น เวลาที่คุณเป็นช่างภาพเวดดิ้ง จะต้องถูกกดดันว่าจะต้องเก็บภาพทุกอย่างของโลเกชั่นออกมาได้ทั้งหมด ทั้งการตกแต่ง พร็อปมากมายมหาศาล รายละเอียด ช็อตแคนดิด หรือโมเมนต์อันน่าประทับใจของคู่บ่าวสาว และถ่าย Portrait เป็นกลุ่ม ซึ่งจำเป็นต้องถ่ายโดยใช้ช่วงเวลาอันน้อยนิดหรือแทบจะไม่มีเลย นอกจากนี้ยังให้ภาพของฉากหลังที่กว้างขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย และคุณจะได้ภาพที่ไม่มี Distortion ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเลนส์ 24mm

 

 

 

 

35mm f1.4 เป็นเลนส์ไวแสงและให้ภาพคมชัด ด้วยเลนส์นี้ คุณจะสามารถเข้าใกล้ตัวแบบด้วยระยะเพียง 0.3m (11.7’) และสะดวกมาก เมื่อคุณอยู่ในหมู่คนจำนวนมาก และยังมีค่ารูรับแสงที่ f1.4 ซึ่งจะช่วยในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีมาก โดยเฉพาะถ้าคุณพอใจที่จะถ่ายภาพในช่วงเวลานั้น และไม่ต้องการใช้แฟลช แม้ว่าระยะ 35 และจะแตกต่างกันแค่รูรับแสงระหว่าง f1.4 และ f2.8 ก็คือความสามารถในการรับแสงของเลนส์แต่ละรุ่นนั้นเอง

 

 

 

เลนส์ 35mm ที่มากับค่า f1.8 อย่างแรกเลย จะได้ทางยาวโฟกัส 52.5mm เมื่อเทียบกับกล้อง Full Frame อย่างที่สอง ระยะของเลนส์ 35mm จะมีระยะที่ใกล้เคียงกับที่เรามองเห็น ซึ่งก็เป็นที่นิยมสำหรับช่างภาพเวดดิ้ง ซึ่งจะให้ผู้ที่ชมภาพได้อารมณ์และสื่อความรู้สึกออกมาราวกับว่าพวกเขาได้อยู่ร่วมเหตุการณ์นั้นๆ ด้วย และการมองเห็นมุมมองเดียวกับแขกในงานพิธี ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการถ่ายภาพแนวเวดดิ้งนี้

 

 

 

 

ถ้าคุณมีเลนส์ระยะ 50mm ที่น่าทึ่งอีกระยะนึงแล้ว คุณก็สามารถนำมาใช้แทนเลนส์ 35mm ได้เลย เพราะโบเก้บนเลนส์ 50mm ก็ให้ภาพที่ชวนตะลึงและคมชัดได้เช่นเดียวกัน และเช่นเดียวกับเลนส์ 35mm เลนส์ 50mm ก็จะมาพร้อมค่า f1.8, f.14 และ f1.2 ขึ้นอยู่กับเลนส์ยี่ห้อนั้นๆ

 

 

 

 

 

5. เลนส์ Macro 105mm (100mm) หรือ 60mm

 

เลนส์ Macro ก็เป็นเลนส์อีกชนิดหนึ่งที่ช่างภาพเวดดิ้งต้องมี หากคุณอยากได้ภาพที่น่าสนใจ อย่าง แหวนแต่งงาน ที่ต้องเข้าไปถ่ายภาพใกล้ๆ และคุณอาจจะใช้เลนส์ Macro ในการถ่ายภาพอัญมณี หรือพร็อปต่างๆ ที่เจ้าสาวใส่ก็ได้ และยิ่งชุดของเจ้าสาวที่ประดับไปด้วยเพชร เลนส์มาโครก็ตอบโจทย์ในการเก็บรายละเอียดเหล่านี้ได้ ช่วยขยายอัตราส่วนภาพได้ดี นอกจากนั้นเลนส์ระยะนี้ ยังใช้ถ่ายภาพ Portrait ได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณไม่จำเป็นต้องใช้รูรับแสงกว้างมากกว่า f2.8 นี้ก็จะเป็นเลนส์ที่น่าพกพาไปถ่ายภาพอย่างยิ่ง โดยเฉพาะระยะ 60mm

 

 

 

 

 

ที่มา digital-photography-school.com

 

ร่วมลุ้นเป็นหนึ่งในผู้โชคดีกับแคมเปญ "บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โบนัส 2018 (BIG CAMERA BIG BONUS 2018) เพียงซื้อสินค้าภายในร้าน บิ๊ก คาเมร่า และ บิ๊ก คาเมร่า แกลเลอเรีย กว่า 230 สาขา ทั่วประเทศ ครบทุก 3,000 บาท รับคูปอง บิ๊ก โบนัส 1 ใบ เพื่อร่วมลุ้นเป็นหนึ่งในผู้โชคดี และรับสิทธิ์โปรโมชั่นสุดพิเศษถึง 9 ต่อ, เครดิตเงินคืนสูงสุด 24,000 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน พร้อมรับเงินคืนเพิ่มกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ  และของแถมอีกมากมาย นอกจากนี้รับสิทธิ์อบรมการถ่ายภาพสุดพรีเมี่ยมฟรี มูลค่ากว่า 20,000 บาท ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2561 – วันที่ 15 มกราคม 2562

รายละเอียดเพิ่มเติม "BIG CAMERA ชวนลูกค้าคนสำคัญ สัมผัสประสบการณ์ครั้งสำคัญ ทางด้านการถ่ายภาพสุด Exclusive ภายใต้ CAMPAIGN BIG CAMERA BIG BONUS 2018 ลุ้นเป็นหนึ่งในผู้โชคดี 20 ท่านกับทริปท่องเที่ยวสุดโรแมนติก ณ อะมัลฟี่โคสต์ประเทศอิตาลี 8 วัน 5 คืน มูลค่ารวมกว่า 3.7 ล้านบาท"

Back to top