 |
||||
 |
||||
| Nikon D810, AF-S Nikkor 24mm f/1.4 G ED Nano, F1.8, 1/3200s, ISO 100, AWB, Pattern Metering | ||||
| NIKONต่อยอดความเป็นที่สุดของกล้องDSLRในการถ่ายทอดรายละเอียดสูง เพื่อรองรับการทำงานระดับมืออาชีพของช่างภาพแต่ละแนว ด้วยฟอร์แมตกล้องฟูลเฟรมที่ถอดAnti-Aliasingให้ความคมชัดสูง พร้อมประสิทธิภาพด้านระบบวิดีโอเอาท์พุทระดับ50p |
||||
| NIKON แนะนำกล้องระดับเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมความละเอียดสูงที่สุดในกลุ่มของ DSLR ในปี 2012 พร้อมกันสองรุ่น คือ D800 และ D800E เรียกความฮือฮาจากกลุ่มนักถ่ายภาพทุกระดับทั่วโลกในเรื่องของไฟล์ขนาดใหญ่ และความแตกต่างกันด้านคุณสมบัติของเซ็นเซอร์แบบปกติ กับแบบที่ถอด Anti-Aliasing เพื่อแสดงรายละเอียดความคมชัดในประสิทธิภาพของระบบอย่างแท้จริงทำให้ช่างภาพต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งเมมโมรี่การ์ด คอมพิวเตอร์ให้คุณสมบัติสูงขึ้นจนกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในเวลาอันรวดเร็วเพื่อรองรับกับไฟล์ภาพดิจิตอลขั้นสูง | ||||
| D810 กล้องรุ่นใหญ่ในตระกูลฟูลเฟรมที่แนะนำก้าวสู่โลกแห่งการถ่ายภาพตัวใหม่ล่าสุดด้วยความละเอียดสูงระดับ 36.2 ล้านพิกเซล(7360 x 4912) แบบถอด Anti-Aliasing ที่พัฒนาใหม่โดยลดช่องว่างระหว่างพิกเซลให้แคบลงส่งผลให้ได้ความไวแสงขั้นต่ำถึง ISO 64 เป็นตัวแรกของ SLR(ของนิคอน) และขยายช่วงได้ต่ำอีกถึง ISO 32 จึงมีค่าไดนามิกเร้นจ์กว้างมากช่วยเก็บรายละเอียดในส่วนสว่างและส่วนมืดได้อย่างดีเยี่ยม จากการทำงานสัมพันธ์กับตัวประมวลผล Expeed4 ใหม่สัญญานรบกวนจึงเกิดขึ้นต่ำต้องขอบคุณการออกแบบพัฒนาระบบให้มีความสามารถสูงขึ้นทำให้การทำงานของช่างภาพง่ายขึ้น | ||||
 |
||||
| D810 ยังคงใช้ระบบเซ็นเซอร์โฟกัสรุ่น Advanced Multi-CAM 3500FX แต่ออกแบบระบบโฟกัสใหม่เพิ่มขึ้นจากระบบโฟกัสอัตโนมัติจุดเดียว, โฟกัสอัตโนมัติแบบปรับเปลี่ยนพื้นที่โฟกัส, การติดตามระยะโฟกัส 3 มิติ และโฟกัสอัตโนมัติแบบเลือกพื้นที่โฟกัสโดยระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบกลุ่มพื้นที่ ซึ่งเป็นโหมดใหม่เปิดตัวมาพร้อมกับกล้อง D4S ทำงานด้วยการใช้จุดโฟกัสอัตโนมัติห้าจุดไปพร้อมกันเพื่อให้สามารถตรวจจับวัตถุที่ต้องการได้อย่างมั่นคงมากขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนโฟกัสไปที่พื้นหลัง ตรงข้ามกับโฟกัสอัตโนมัติแบบปรับเปลี่ยนพื้นที่โฟกัส ซึ่งใช้จุดโฟกัสเพียงจุดเดียวในการตรวจจับวัตถุเบื้องต้น โหมดนี้จะช่วยให้คุณสามารถจับภาพวัตถุขนาดเล็กในระยะไกลที่เคลื่อนไหวเร็วได้มากยิ่งขึ้น แถมยังได้ภาพที่คมชัดมากกว่าเดิม แม้มีระบบโฟกัสอัตโนมัติ 51 จุด เป็นแบบ Cross-type 15จุดที่ f/5.6 เท่าเดิม | ||||
 |
||||
| D810 ออกแบบโครงสร้างให้แข็งแรงตามแบบฉบับกล้องสายพันธุ์แกร่งด้วยวัสดุแม็กนีเซียมอัลลอยด์ น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง มีซีลกันฝุ่นและละอองน้ำ รองรับการใช้งานทุกสภาวะอากาศ นอกจากนี้ยังออกแบบการสั่นไหวทางกลไก ที่เกิดจากกระจกของกล้องและการเคลื่อนที่ของชัตเตอร์ใหม่ เพื่อลดความสั่นไหวแม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาพที่ถ่ายด้วยกล้องเมกะพิกเซลความละเอียดสูง ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการดีไซน์ใหม่หมดทั้งกระจก ลำดับการกดชัตเตอร์ และกลไกการทำงานของกล้อง การปรับสมดุลกระจกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่หมดช่วยลดแรงกระแทกของกระจก ขณะที่กระจกที่ควบคุมด้วยกลไกและชุดชัตเตอร์สามารถทำงานได้แม้ความเร็วรอบต่ำในโหมด Q และ QC (Quiet & Quiet Continuous) เพื่อให้มีการสั่นไหวน้อยและมีสัญญาณรบกวนต่ำสมกับชื่อโหมดเงียบ | ||||
 |
||||
| D810 ใช้ช่องมองภาพออพติคัลที่เลือกนำปรึซึมแก้วขนาดใหญ่ให้ภาพสว่างใส คมชัด เห็นภาพ 100% ให้อัตราขยาย 0.7 เท่า มีการแสดงผลข้อมูลในช่องมองแบบ Organic EL ด้านใต้ให้ข้อมูลคอนทราสต์สูง และสดใสแต่ใช้พลังงานน้อย มั่นใจได้ถึงการบันทึกภาพกลางแจ้งที่สวยโดดเด่น แม้จะมีแสงสว่างจ้าจากด้านหลังรบกวน สำหรับจอภาพ LCD ด้านหลังใช้ขนาด 3.2 นิ้ว/8 ซม. ความละเอียดประมาณ 1,229,000 จุด ใช้การปรับ RGBW เพื่อความสว่างที่มากขึ้น คุณสมบัติข้างต้นเป็นการผสานกับโครงสร้างของกระจกและแผงเป็นหนึ่งเดียวกันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นสภาพแสงในเวลากลางวันและขยายตัวช่วงการปรับปรุงคุณภาพสีที่กว้างยิ่งขึ้น พื้นผิวจอภาพยังทำจากกระจกกันรอยขีดข่วนและกันกระแทก ซึ่งในกล้องรุ่นใหม่ๆของนิคอนจะเลือกใช้เทคโนโลยีนี้ | ||||
 |
||||
| D810 มีช่องใส่เมมโมรี่การ์ดสองช่องสองแบบ คือแบบ CF และแบบ SD Card เพื่อรองรับการบันทึกภาพไฟล์ขนาดใหญ่ทั้งไฟล์ JPEG และไฟล์ RAW CF Card จึงใช้ได้กับมาตรฐาน UDMA 7 รุ่นล่าสุด ส่วนช่องบรรจุแผ่นการ์ด SD นั้นใช้ได้กับ SDXC (Secure Digital eXtended Capacity) และ UHS-I นอกจากนี้ ยังสามารถใช้การ์ดสองตัวพร้อมกันได้หลากหลายวิธี เช่น บันทึกข้อมูลเป็น JPEG และ RAW ในการ์ดแยกกัน หรือบันทึกข้อมูลประเภทเดียวกันในทั้งสองการ์ดพร้อมกันเพื่อสำรองข้อมูล และอื่นๆ อีกมากมาย หากคุณต้องการถ่ายภาพให้อยู่ในรูปแบบไฟล์ RAW เพื่อปรับปรุงภาพในขั้นตอนหลังการผลิตแต่ก็ต้องการสร้างไฟล์ที่รวดเร็ว ตัวกล้องก็มีไฟล์ JPEG เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ไฟล์ RAW ขนาดเล็ก (S) แบบใหม่ (ไม่บีบอัด 12 บิท) มีความละเอียดเท่ากับหนึ่งในสี่และมีขนาดครึ่งหนึ่งของไฟล์ RAW ขนาดใหญ่ (L) แบบไม่บีบอัดซึ่งจะยังคงความคมชัดและระดับสัญญาณรบกวนเทียบเท่า JPEG ขนาดเล็ก แต่ยังแสดงผลที่สมบูรณ์แบบและสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบไฟล์ RAW ได้ และจุดเด่นของกล้องฟูลเฟรมนิคอนคือ มีตัวเลือกของรูปแบบพื้นที่ภาพ4รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบ FX (35.9 x 24.0 มม.), 5:4 (30.0 x 24.0 มม.), 1.2x (30.0 x 19.9 มม.) และรูปแบบ DX (23.4 x 15.6 มม.) โดยพื้นที่ภาพตัดส่วนทั้งหมดจะทำเครื่องหมายไว้ให้เห็นในช่องมองภาพ รูปแบบ DX จะให้งานการตัดส่วนภาพได้ประมาณ 1.5 เท่า และ 1.2 เท่า และงานเอ็ฟเฟ็กต์เทเลโฟโต้ได้ประมาณ 1.2 เท่า เมื่อใช้เลนส์ DX NIKKOR กล้องจะเลือกรูปแบบ DX โดยอัตโนมัติ | ||||
 |
||||
| D810 ใช้ระบบ Advanced Scene Recognition ที่เป็นตัวปฏิวัติวงการของ Nikon ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่นำมาใช้ในกล้อง D4S เซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซลของกล้องนี้สามารถรับรู้สีและความสว่างของฉากได้อย่างแม่นยำ จากนั้นจะใช้ข้อมูลที่ได้ในการปรับใช้ตัวควบคุมอัตโนมัติต่างๆ เช่น โฟกัสอัตโนมัติ ค่าแสงอัตโนมัติ ไวท์บาลานซ์อัตโนมัติ และค่าแสงแฟลช i-TTL นอกจากนี้ ระบบยังใช้ข้อมูลการตรวจจับใบหน้าจากเซ็นเซอร์ภาพในการแสดงภาพใบหน้าคนที่ขยายใหญ่ รวมถึงการควบคุมค่าแสงและโฟกัสอัตโนมัติขณะถ่ายแบบไลฟ์วิว รวมถึงการถ่ายวิดีโอ | ||||
 |
||||
| D810 ใช้ระบบประมวลผลภาพ EXPEED 4 ให้จัดอัลกอริธึมใหม่สำหรับคำนวณหาไวท์บาลานซ์อัตโนมัติที่ทำการวิเคราะห์ภาพเพื่อตรวจจับแหล่งกำเนิดแสงในฉากได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นเพื่อให้ได้ไวท์บาลานซ์แบบอัตโนมัติที่แม่นยำมากขึ้น คุณสามารถปรับตัวเลือกไวท์บาลานซ์แต่ละรายการ ซึ่งรวมถึงแบบอัตโนมัติ ได้ในขั้นที่ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อให้ได้ภาพอย่างที่คุณต้องการ นอกจากนี้คุณสมบัติไวท์บาลานซ์เฉพาะจุดของกล้องรุ่นนี้ยังช่วยให้คุณสามารถคำนวณไวท์บาลานซ์แบบปรับเอง (Preset) ที่ตั้งไว้ล่วงหน้าผ่านไลฟ์วิว โดยใช้บริเวณสีขาวหรือสีเทาในเฟรมภาพของคุณ คุณสมบัตินี้ช่วยให้คุณสามารถใช้ไวท์บาลานซ์ตามค่าที่ตั้งเองได้โดยไม่ต้องใช้แผ่นกระดาษสีเทา ซึ่งถือเป็นความสะดวกในอีกรูปแบบหนึ่งที่จะมอบประสิทธิภาพอย่างที่มืออาชีพจะชื่นชอบ | ||||
|
||||
| D810 เพิ่มลูกเล่นโทนสีใน Picture Control แบบ Flat ใหม่ที่ให้โทนสีราบเรียบเที่ยงตรงเก็บค่าไดนามิกเร้นจ์กว้าง รองรับการนำภาพไปปรับแต่งในขั้นตอน Post-Process ได้ดียิ่งขึ้น สามารถปรับความสว่างได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงในช่วง ±1.5 ปุ่มบนตัวกล้องที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจะทำให้คุณสามารถใช้เมนู Picture Control ได้เลยทันที ซึ่งคุณสามารถเลือกให้เหมาะกับความต้องการถ่ายภาพสุดสร้างสรรค์ของคุณมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นแบบมาตรฐาน ทิวทัศน์ หรือแบบ Flat ที่ให้มาใหม่ การปรับแต่ง Picture Controlโดยใช้แอพพลิเคชันในตัว Picture Control Utility 2 จะทำให้คุณปรับรายการต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าความชัดแบบใหม่ และปรับความสมดุลของโทนสีในขณะที่มีการตรวจสอบเอ็ฟเฟ็กต์ สามารถบันทึกการตั้งค่าที่ปรับแล้วให้เป็น Picture Control แบบกำหนดเองและส่งเข้าตัวกล้องผ่านการ์ด CF หรือ SD เพื่อให้ถ่ายภาพได้ตามการตั้งค่าที่เลือกไว้ แอพพลิเคชันสามารถทำงานได้ในตัว หรือจะเปิดผ่าน Capture NX-D หรือ View NX 2 ก็ได้ | ||||
 |
||||
| Nikon D810, Micro Nikkor AF-S 105mm f/2.8 G IF-ED VR, F5, 1/125s, ISO 100, AWB, Focal Length 105mm | ||||
| D810 มีการปรับปรุงเรื่องการถ่ายภาพต่อเนื่องจาก4ภาพ/วินาที ให้เร็วขึ้นเป็น5ภาพ/วินาที หลายท่านอาจคิดว่าทำไมเพิ่มขึ้นมาไม่มากแต่หากมองที่จำนวนพิกเซลที่ต้องอ่านแล้วประมวลผลเขียนข้อมูลก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว และเมื่อเปลี่ยนฟอร์แมตเป็น DX Crop จะเพิ่มความเร็วขึ้นเป็น6ภาพ/วินาที แต่จะได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด 7 ภาพ/วินาทีเมื่อใช้ร่วมกับแบตเตอรรี่กริป MB-D12 ซึ่งความเร็วของรุ่นนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่นักถ่ายภาพเลือกเป็นลำดับต้นๆเพราะทางนิคอนเลือกนำเสนอไปที่ช่างภาพกลุ่ม WEDDING หรือสายถ่ายภาพธรรมชาติ สถาปัตยกรรมเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ส่วนความละเอียดเมื่อครอปพื้นที่การแสดงผลนั้นเป็นจุดเด่นหลักที่สามารถทำได้ในระดับดีไม่ว่าจะเป็นการTrimในขั้นตอนตกแต่งภาพในตัวกล้องหลังกดชัตเตอร์ หรือเลือกฟอร์แมตตั้งแต่ก่อนกดชัตเตอร์นี่จึงความพิเศษที่มีมากกว่ากล้องแบรนด์อื่นซึ่งบ่งบอกได้ถึงความเข้าใจของทีมออกแบบในการสนองนักถ่ายภาพระดับมืออาชีพ | ||||
 |
||||
| Nikon D810, Micro-Nikkor AF-S 105mm f/2.8 G IF-ED VR, F4.5, 1/250s, ISO 100, AWB, Focal Length 105mm | ||||
 |
||||
| Nikon D810, AF-S 24mm f/1.4 G ED, F1.8, 1/2500s, ISO 100, AWB, Focal Length 24mm | ||||
| D810 รองรับรูปแบบการใส่เอฟเฟ็กซ์การตกแต่งภาพให้เหนือกว่าที่ตาเห็นได้หลังจากที่บันทึกภาพเสร็จเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลภาพขึ้นในสังคมออนไลน์ด้วยเมมโมรี่การ์ดที่มีสัญญาน Wi-Fi ในตัว หรือต้องการส่งภาพตัวอย่างไปให้เพื่อนในรูปแบบไฟล์ JPEG สำหรับการพัฒนาด้านวิดีโอปรับปรุงทั้งไฟล์และฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆในระดับมืออาชีพมากขึ้นในความละเอียด Full HD อัตราความเร็ว (เฟรมเรท) 60p(NTSC) / 50p(PAL) ซึ่งเป็นการช่วยในสร้างความนุ่มนวลเมื่อต้องการสร้างภาพแบบ Slow Motion และสามารถบันทึกไฟล์วิดีโอแบบไร้การบีบอัด (IPB/H.264 codec) ด้วยเครื่องบันทึกภาพนอกไปพร้อมกับไฟล์บีบอัด (CF/SD Card) บันทึกต่อเนื่องนาน 20 นาทีสลับปรับฟอร์แมต FX กับ DX ได้ตลอดโดยคงความละเอียดFull HDไว้ จุดเด่นคือไม่ต้องถอดเปลี่ยนเลนส์สลับไปมา | ||||
 |
||||
| D810 มีระบบ Power Iris Controlสามารถปรับรูรับแสงได้ต่อเนื่องแบบนุ่มนวลเนียนสายตา ไม่กระตุกวูบวาบ และมีระบบ Auto ISO ช่วยเปลี่ยนจากฉากมืดไปสว่างได้โดยไม่ต้องปรับรูรับแสง หรือเฟรมเรท ในขณะบันทึกภาพจะมี Zebra Pattern แสดงส่วนสว่างที่ขาดรายละเอียดเตือน ทางด้านเสียงสามารถเสียบไมโครโฟนแบบสเตอริโอเพิ่มเติมถ่ายทอดคุณภาพสูงได้ชัดเจนทางนิคอนให้ความเชื่อมั่นจากอุปกรณ์สนับสนุนมากมายจึงมั่นใจว่ากล้องรุ่นนี้ให้ไฟล์ภาพวิดีโอไม่เป็นรองใครแน่นอน ท่านที่เคยสัมผัสรุ่นD800หรือD800E คงให้คำตอบได้เป็นอย่างดีว่าเป็นการก้าวกระโดดที่เป็นมากกว่าไมเนอร์เชนจ์เพราะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอีกหลายจุดถูกปรับปรุงพัฒนาให้ใช้คล่องตัวขึ้นเมื่อนำไปลงสนามจริง | ||||
 |
||||
| BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด ขอมอบสิ่งดีๆ เสริฟถึงที่ด้วยสาระความรู้ ความสนุก สอดแทรกแง่คิดดีๆอย่างนี้เป็นประจำทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน อยากรู้อยากสนุกกับการนำเสนอกล้องรุ่นใหม่ๆผ่านตัวหนังสือ และภาพถ่าย อย่าพลาด! ติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่งของโลกใบนี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ครั้งต่อไป...สวัสดีครับ | ||||
|
||||
Review กล้อง Nikon D810 ที่สุดของรายละเอียดศิลป์
By
-
November 03, 2014
7035 อ่าน
