Thailand English
 
Thailand English

 

 

Canon SpeedLite 600EX RT มาสร้างสรรค์แสงในแบบมืออาชีพกัน

 
Canon EOS 70D, EF-S 18-135mm f/3.5-5.6 IS STM, F5, 1/1600s, ISO 320, AWB, Focal Length 50mm, High Speed Sync Mode
 
CANON ผู้ผลิตกล้องชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมให้เลือกหลากหลาย
จึงไม่แปลกใจที่จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆออกมาให้เล่นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อตอบสนองไลพ์สไตล์ของคนรักการถ่ายภาพทั่วโลก
กับการเข้าไปนั่งในใจคนที่คิดจะมีกล้องสักตัว
 
     CANON ปลุกกระแสผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพบุคคล หรือวัตถุด้วยการใช้แสงแฟลชออกนอกตัวกล้อง(Off Camera Flash)เพื่อการออกแบบรูปแบบของแสงให้ได้ตามอารมณ์ที่ช่างภาพต้องการจะสื่อสารกับผู้ชมผลงาน อาทิสร้างความนุ่มนวล ความแข็งแกร่ง ความโปร่งใส แต่เดิมอาจจะเคยใช้แสงแฟลชในตัวกล้อง(Built-in Flash)ค่อยๆขยับมาเป็นแฟลชภายนอก(Speedlite)ติดบนฐานเสียบแฟลช(Hotshoe)เมื่อใช้แล้วอาจจะเกิดความต้องการที่มากขึ้นกว่าเดิมจากแสงที่ส่องโดยตรงก็มีการสะท้อนขึ้นเพดาน ผนัง หรือแผ่นสะท้อนแสง(Bounce)จนไปถึงการส่องผ่านอุปกรณ์เสริมอย่างร่ม ซอฟท์บ็อกซ์ด้วยการนำแฟลชออกนอกตัวกล้อง ซึ่งอาศัยฟังก์ชั่นการควบคุมแฟลชออกนอกตัวกล้องแบบไร้สาย(Wireless Flash Control)ตัวเซ็นเซอร์จะถูกกระตุ้นด้วยแสงกะพริบ(Optical Wireless)ตามช่องสัญญานที่ถูกกำหนดไว้ แต่ก็อาจพบปัญหาได้หากต้องการวางหัวแฟลชซ่อนในมุมอับที่แสงไม่สามารถไปกระตุ้นถูกตัวเซ็นเซอร์ ทางแคนนอนจึงออกแบบแฟลชรุ่นใหม่ที่ติดตั้งสัญญานเซ็นเซอร์ระบบคลื่นวิทยุ(Radio Transmittion : RT) ฝังไว้ภายในตัวเพื่อเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้กังวล
 
 
     Speedlite 600EX RT เป็นแฟลชภายนอกที่พัฒนาให้มีความสามารถสูงขึ้นกว่าแฟลชรุ่น Speedlite 580EX II ด้วยขนาดรูปทรงคล้ายกันโดยเติมความพิเศษการเชื่อมต่อของแฟลชให้ทำงานพร้อมกันได้หลายตัวด้วยสัญญานระบบคลื่นวิทยุครอบคลุมระยะถึง50เมตร เพื่อลดข้อจำกัดของการสั่งงานแบบเดิมที่ใช้แสงสว่างไปกระตุ้นเซ็นเซอร์(Optical Wireless)ที่จะเจอในเรื่องของระยะทาง ตำแหน่งการวางที่ไม่สามารถไปซ่อนในมุมอับได้ แฟลชรุ่นใหม่นี้จึงเสริมประสิทธิภาพเรื่องนี้เข้าไปเป็นจุดเด่นให้นักถ่ายภาพได้เลือกนำไปใช้งานในลักษณะแนวสตูดิโอเคลื่อนที่ได้เต็มรูปแบบกว่าเดิม(Portable Studio)บนคลื่นความถี่2.4 GHz
 
 
     Speedlite 600EX RT มีค่าไกด์นัมเบอร์60ที่ ISO100 ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดAAจำนวน4ก้อน ออกแบบสวิทช์เปิด/ปิดใหม่ให้มีตำแหน่งล็อกสำหรับป้องกันค่าระบบการทำงานต่างๆที่ปรับตั้งไว้เปลี่ยนแปลงเมื่อถูกกดทับโดยไม่ตั้งใจเวลาเก็บในกระเป๋า หน้าจอแสดงผลLCDเป็นแบบDot Matrixที่ให้ความสว่างสบายตามีปุ่มเรียงใต้จอ4ตำแหน่ง ช่วยให้ง่ายต่อการเลือกเมนูและฟังก์ชั่นการทำงาน ด้านซ้ายจะมีปุ่มเลือกโหมดการทำงาน และปุ่มเข้าระบบสั่งงานแบบไร้สายทั้งแบบวิทยุและแบบแสง ซึ่งไม่ยุ่งยากวุ่นวายอาศัยสังเกตจากสัญลักษณ์รูปเสาอากาศ กับสายฟ้า หรือสีของแสงที่เป็นสีส้ม กับสีเขียวก็ได้  โดยหัวแฟลชมีระยะทำการสัมพันธ์กับช่วงเลนส์ตั้งแต่20-200มม. และครอบคลุมเลนส์มุมกว้างสุดถึง14มม.เมื่อดึงแผ่นกระจายแสงด้านหน้าลงมา นอกจากนั้นยังมีแผ่นสะท้อนแสงสีขาวคอยช่วยทำหน้าที่Bounceแสงให้นุ่มนวลยิ่งขึ้นร่วมกับการปรับหมุนหัวแฟลช(swivel)ในทิศทางเงยขึ้น หรือหมุนรอบตัว(การปรับต้องกดปุ่มPushด้านข้างค้างไว้ด้วย) จุดล็อกฐานเสียบแฟลชจะแน่นหนามีซีลป้องกันละอองน้ำ ฝุ่นละออง(Dust and Water Resistant)จึงมั่นใจเวลาประกอบใช้งานร่วมกับกล้องรุ่นใหญ่ที่มีระบบเดียวกันนี้ อาทิ EOS 1DX ความพิเศษของขาล็อกรุ่นนี้จะเคลื่อนตัวเลื่อนเข้าจุดสัมผัสไฟฟ้าต่อเมื่อผลักก้านล็อกให้แน่นเพื่อทำให้ผิวจุดสัมผัสสะอาดไม่มีปัญหาในการเชื่อมสัญญานไฟฟ้าเพราะบางครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งานนานๆที่ขั้วอาจสกปรกจนเป็นสาเหตุให้ระบบทำงานไม่ราบรื่น
 
 
 
     Speedlite 600EX RT มีโหมดการทำงานสอดคล้องกับกล้อง ตั้งแต่ ETTL, M, Multi, Ext.A, Ext.M, Gr ดูเยอะแยะเหมือนวุ่นวายแต่ก็เป็นโหมดที่แฟลชรุ่นใหญ่ต้องมีไว้รองรับรูปแบบ การใช้งานที่ครอบคลุมหลากหลายแม้จะมีโอกาส  ได้ใช้ไม่ทั่วถึงทุกคนเพราะยังขาดความเข้าใจฟังก์ชั่นการทำงานคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวจึงมักใช้เฉพาะการเสียบเข้ากับฐานแล้วเลือกโหมดTTLเป็นหลักเท่านั้นเพราะง่ายจากการที่แคนนอนค้นคว้าพัฒนาให้ระบบวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกับกล้องในการประมวลผลสภาพแสงบริเวณนั้นๆว่าควรจะปล่อยให้แสงออกไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งระบบนี้เรียกว่าระบบETTL II แฟลชจะทำการคายประจุตามที่อ่านข้อมูลได้โดยยังสามารถควบคุมเพิ่มหรือลดปริมาณแสงได้ สำหรับชั่วโมงนี้โหมดที่เป็นกระแสไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ โหมดควบคุมแฟลชแยกจากตัวกล้องเพื่อออกแบบทิศทางแสงเองอย่างที่ตั้งใจ อีกทั้งปรับตั้งกำลังความแรงของแฟลชอิสระจากโหมด M ตั้งแต่1/128 จนถึงเต็มไฟ ส่วนท่านที่เคยเห็นภาพนักยิมนาสติก หรือนักกอล์ฟโชว์วงสวิง มีแอ็คชั่นต่อเนื่องกันในภาพเดียวกันเป็นเทคนิคจากการเลือกโหมดMultiเพื่อให้แสงยิงถี่ๆออกไปต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อเก็บช่วงจังหวะการเคลื่อนที่แต่มีเงื่อนไขว่าควรถ่ายภาพในห้องที่มืดสนิทป้องกันแสงธรรมชาติรบกวน บางท่านอาจเรียกหมดนี้ว่าStrobe Flash
 
 
 
     Speedlite 600EX RT ยังสามารถใช้เทคนิคสัมพันธ์ม่านชัตเตอร์ชุดแรก กับชุดที่สองได้(Front Curtain & Rear Curtain Sync Flash) เพื่อสร้างเทคนิคการเก็บบันทึกแสงแฟลชพร้อมแสงธรรมชาติที่มี หรือเก็บบันทึกแสงแฟลชหลังจากที่เก็บแสงธรรมชาติไปแล้ว นอกจากนั้นยังเลือกความเร็วชัตเตอร์ให้สัมพันธ์ด้วยชัตเตอร์เร็ว และต่ำได้(Slow Sync Flash & High Speed Sync Flash) ผู้ที่ชื่นชอบการบันทึกภาพในบริเวณที่มีแสงไฟ หรือหยุดความเคลื่อนไหวของวัตถุรับรองว่าต้องได้ใช้งานแน่ๆ ซึ่งการตั้งค่าที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำนั้น(1/60s,1/15s,…) สามารถเลือกที่ตัวกล้องได้เลยแต่ถ้าเลือกความเร็วชัตเตอร์สูงเกินกว่าX-Syncของกล้องแต่ละรุ่น อาทิ 1/200s, 1/250s ต้องปรับกล้องไปที่สัญลักษณ์ รูปแฟลชมีตัวH เพื่อให้กล้องและแฟลชทำงานสัมพันธ์กันได้เกินกว่ามาตรฐานปกติไม่เกิดอาการแถบดำเนื่องจากแสงผ่านเข้าสู่เซ็นเซอร์ไม่ทันเพราะม่านชัตเตอร์ปิดไปก่อน คุณจะเห็นเทคนิคนี้จากการถ่ายภาพน้ำกระเซ็นจากแก้วน้ำ หรือการสาดน้ำในวันสงกรานต์
 
 
     เทคนิคHigh Speed Sync Flash จากภาพตัวอย่างเป็นการเลือกใช้ในสภาพแสงแดดที่สว่างมากบริเวณฉากหลังแต่เราต้องการบันทึกภาพบรรยากาศของฉากเอาไว้ด้วยจึงจำเป็นต้องเปิดความเร็วชัตเตอร์สูงพร้อมกับใช้แฟลชช่วยเปิดรายละเอียดของตัวแบบโดยใช้แฟลชจากตัวกล้องสั่งงานแฟลชที่แยกออกไป(Off-camera)สำหรับเพิ่มมิติภาพให้สวยงามยิ่งขึ้น
 
         Speedlite 600EX RT สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง ST-E3 RT เพื่อควบคุมการทำงานแบบไร้สายในระบบสัญญานวิทยุโดยตั้งเป็นGroupได้สูงสุด15กลุ่ม ใช้ในกรณีที่ต้องการสั่งงานแฟลชร่วมกันได้หลายกลุ่มแม้อยู่ในบริเวณเดียวกัน อาทิ ตั้งเป็นGroup A กับGroup B และถ้าสั่งแฟลชรุ่นนี้แบบไม่ต้องการให้มีแสงสว่างจากตัวสั่งการ(Master)ไปรบกวนตัวแบบก็สามารถทำได้ นอกจากนี้เราสามารถModifiesแสงจากการสะท้อนแสง(Bounce) ขึ้นบนเพดาน หรือปรับให้สะท้อนผนังเพื่อให้แสงกระจายครอบคลุม และนุ่มนวล หรือจะหาอุปกรณ์เสริมพวกซอฟท์บ็อกซ์ สนู้ท มาสวมด้านหน้าหัวแฟลชให้แสงเกิดความนุ่มนวล หรือควบคุมพื้นที่ส่องสว่างเฉพาะส่วนได้ตามความต้องการของช่างภาพ 
 
       เทคนิคSlow Speed Sync Flash จากภาพเป็นการตั้งกล้องด้วยความเร็วชัตเตอร์2.5วินาที  โดยวางกล้องไว้กับขาตั้งกล้องเมื่อกดชัตเตอร์พร้อมแสงแฟลชสว่างขึ้นภาพจะไปปรากฎบนเซ็นเซอร์จากนั้นแพนกล้องไปมาจึงเกิดภาพตุ๊กตาเหมือนเป็นเงาซ้อนด้านหลัง
 
     ใช้ซอฟท์บ็อกซ็สวมหน้าหัวแฟลชทางด้านซ้ายของภาพเพื่อทำให้แสงนุ่มนวลและกระจายทั่วตัวแบบโดยใช้โหมดM ปรับลดกำลังไฟให้อ่อนเพราะจัดไฟไว้ใกล้ตัวแบบไม่จำเป็นต้องใช้แสงมากจนสูญเสียพลังงานแบตเตอรี่เกินไป
 
     Speedlite 600EX RT โดดเด่นในการทำงานที่หลากหลายครอบคลุมมี Recycle Timeที่รวดเร็วทันใจหากอยู่ในโหมด Quick Timeสามารถชาร์จเต็มกำลังไฟภายในเวลา3.3วินาทีเท่านั้นจากการทดลองใช้งานต้องบอกเลยว่าประหยัดพลังงานพอสมควร ส่วนระบบการเชื่อมสัญญานแบบไร้สายช่วยให้การแยกแฟลชจากตัวกล้องสมบูรณ์แบบมากขึ้นต้องการแสงจากมุมไหนก็ควบคุมได้ด้วยตัวเอง หรือหากมีทีมงานก็สะดวกมากขึ้นกับการปรับลดกำลังไฟ เลื่อนตำแหน่งแฟลช ในเมนูตั้งค่าแฟลชของกล้องแต่ละรุ่นอาจใช้คำแตกต่างกัน เช่นFlash Control, External Flash Setting, Commander เมื่อเปิดเข้าไปจะมีการตั้งค่าแฟลชป๊อปอัพให้เป็นMasterได้นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่กล้องรุ่นโปรในปัจจุบันจะออกแบบให้มีแฟลชป๊อปอัพมาให้ในตัวด้วย โดยสามารถตั้งค่าให้แสงสว่างไม่มีผลต่อภาพได้เมื่อต้องการถ่ายภาพวัตถุที่มีการสะท้อนแสงสูง หรือไม่ต้องการให้แสงรบกวนตัวแบบจากด้านหน้า ดังนั้นการใช้แฟลชในการถ่ายภาพจึงเป็นทางเลือกสำคัญที่จะช่วยให้ภาพถ่ายของคุณสวยแปลกตามีสไตล์มากยิ่งขึ้น ขอเพียงให้เวลาศึกษาทดลองใช้งานให้เข้าใจเสียก่อนแล้วมันจะให้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการได้ไม่ยากอย่างที่คิดตั้งกำแพงไว้ตั้งแต่ตอนแรก
 
 
     BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด ขอมอบสิ่งดีๆเสริฟถึงที่ด้วยสาระความรู้ ความสนุก สอดแทรกแง่คิดดีๆอย่างนี้เป็นประจำทุกวันที่1 และ16ของเดือน อยากรู้อยากสนุกกับการนำเสนอกล้องรุ่นใหม่ๆผ่านตัวหนังสือ และภาพถ่าย อย่าพลาด! ติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่งของโลกใบนี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ครั้งต่อไป...สวัสดีครับ
 
         Speedlite 600EX RT Specifications :
  • ค่ากำลังไฟแฟลช GN.60 (Guide Number 60) ที่ ISO100
  • กระจายแสงครอบคลุมพื้นที่การใช้งานตั้งแต่ระยะ 20-200มม.
  • มีแผ่นกระจายแสงใช้งานครอบคลุมเลนส์มุมกว้าง 14 มม.
  • มีระบบส่งสัญญานคลื่นวิทยุ ความถี่2.4GHz ครอบคลุมระยะ30เมตร
  • ควบคุมแฟลชได้พร้อมกันถึง 15 ตัว
  • มีระบบ AF-assist beam ช่วยส่องแสงปรับโฟกัสอัตโนมัติ
  • ซีลป้องกันฝุ่นและละอองน้ำเพื่อรองรับการใช้งานหนักแบบมืออาชีพ
  • Recycle Timeภายใน0.1-3.3วินาที (Quick Mode)
  • น้ำหนัก 425 กรัม
 
 
Camera   :  Canon EOS 70 D
Lens       :  EF-S 18-135mm f/3.5-6.3 IS STM
Flash      :  Speedlite 600 EX RT
 
 

Back to top