Sony เปิดตัวกล้อง A7R Mark III กล้อง Full Frame Mirrorless ตัวใหม่ล่าสุด ในงาน Photo fair 2017

Sony เปิดตัวกล้อง A7R Mark III กล้อง Full Frame Mirrorless ตัวใหม่ล่าสุด ในงาน Photo fair 2017

     หลังจากมีข่าวเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา วันนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยสำหรับ Sony A7R Mark III ในงาน Photo fair 2017 ที่ไบเทคบางนา

       Sony A7R Mark III กล้อง Full Frame Mirrorless รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อยอด โดยเอาจุดเด่นของกล้อง A9 และ A7R Mark ii เดิมมารวมกัน ทำให้ A7R Mark iii มีจุดเด่นคือ ความละเอียดและคุณภาพไฟล์ที่ยอดเยี่ยม และมีความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น โดย A7R Mark III ใช้เซนเซอร์  BSI CMOS ที่มีความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซลเหมือนรุ่นเดิม ISO 100-32000 (ขยายได้ 50 – 102400) มี dynamic range สูงสุดที่ 15 สต็อป ใช้ชิพประมวลผล Bionz X และหน่วยประมวลผล LSI ใหม่ที่ใช้ในอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ จึงทำให้ฮาร์ดแวร์สามารถประมวลผลภาพได้เร็วขึ้น ตัวกล้องจึงสามารถถ่ายภาพรัวได้สูงสุดที่ 10 ภาพต่อวินาทีในโหมดออโต้โฟกัสเต็มรูปแบบ ทั้งโหมดชัตเตอร์เชิงกลหรืออิเล็กทรอนิกส์ และยังสามารถใช้ฟีเจอร์ถ่ายภาพต่อเนื่องใน Live View ได้สูงสุด 8 ภาพต่อวินาที ส่วนการถ่ายภาพต่อเนื่องสามารถทำได้สูงสุดที่ 87 ภาพในโหมดไฟล์ RAW บีบอัด และ 28 ภาพในโหมดไฟล์ RAW ไม่บีบอัด

A7R Mark iii ด้านหน้า ยังหล่อเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มาพร้อมกับเลนส์ 24-105mm F4 G

ระบบ Auto Focus ของ Sony A7R III มีจุดโฟกัสบนเซนเซอร์แบบ phase detection ทั้งหมด 399 จุดเหมือนรุ่นเดิม ครอบคลุมพื้นที่ถึง 68% และจุดโฟกัสแบบ contrast detection ถึง 425 จุด สามารถโฟกัสได้ที่ -3EV เมื่อใช้เลนส์ F2 ชัตเตอร์ของตัวกล้องก็ถูกออกแบบใหม่ให้เร็วและสั่นน้อยลง กลไกแบบใหม่สามารถลดความเสี่ยงในการเจอชัตเตอร์ช็อกได้ และยังเพิ่มความคมให้ภาพอีกด้วย ส่วนระบบกันสั่นภายในตัวกล้องเป็นแบบ 5 แกน รองรับการกันสั่นที่ 5.5 สต็อปเลยทีเดียว

ด้านหลังย้ายปุ่ม Rec มาไว้ในตำแหน่งเดียวกับ A9 และเพิ่ม Joy Stick กับปุ่ม AF-ON เข้าไป ช่องใส่การ์ด 2 Slot รองรับ SDXC UHS-II

ส่วนการถ่ายวิดีโอ A7R Mark III สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ 4K UHD เต็มขนาดของเซนเซอร์ (แต่หากถ่ายจากโหมด crop ที่ APS-C หรือ Super 35 จะได้คุณภาพดีกว่า) เพราะมีความละเอียดที่ดี, dynamic range กว้าง และถ่ายภายใต้แสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า และยังมีโหมด Hybrid Log Gamma ที่สามารถถ่าย Log footage พร้อม metadata เพื่อให้หน้าจอ HDR ที่รองรับฟีเจอร์สามารถประมวลผลข้อมูลและแสดงภาพได้โดยไม่ต้องมีการทำการประมวลผลภายหลัง ส่วนการถ่ายวิดีโอ 1080p สามารถถ่ายได้สูงสุดถึง 120 เฟรมต่อวินาที

Port ด้านข้างให้มาแบบจัดเต็มทั้ง USB 3.1 Type C USB 2.0 Micro HDMI มี Port Sync Trminal มาให้อีกด้วย

ส่วนแบตเตอรี่ Sony เลือกใช้ NP-FZ100 ซึ่งทำให้ตัวกล้องสามารถใช้งานได้นานขึ้น 2.2 เท่า สามารถถ่ายภาพได้ 650 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้งหากใช้จอ LCD หรือ 530 ภาพหากใช้ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนช่องเสียบการ์ดนั้นมีสองช่อง รองรับมาตรฐานสูงสุดที่ UHS-II ช่องหนึ่ง และอีกช่องหนึ่งที่ UHS-I

บรรยากาศงานเปิดตัว

คุณอั๋น ภูวนาท คุนผลิน เป็นพิธีกรในงานเปิดตัว Sony The Power of Imaging

Mr. Yuzo Chiba กรรมการผู้จัดการบริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ขึ้นกล่าวต้อนรับและเปิดงาน

คุณลีลนา เพียรพิริยะ ผู้จัดการแผนกการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ดิจิตอลอิมเมจจิ้ง บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เป็นผู้บรรยายให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน

A7R Mark iii คือกล้องที่นวมเอาข้อดีของ A7R Mark ii และ A9 เข้าไว้ด้วยกัน

Dynamic Range เพิ่มขึ้นเป็น 15 Stop

Native ISO Standard เพิ่มขึ้นเป็น 32,000

ชัดเตอร์เงียบถ่าย Raw 14-Bit แบบ Unpressed ได้

กันสั่น 5 แกนในตัวกล้องทำงานได้ดีขึ้นเป็น 5.5 Stop

A7R Mark iii ได้รับการพัฒนา Skin tone ให้ดีขึ้น

ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 Fps ทั้งชัตเตอร์แบบกลไกและชัตเตอร์ไฟฟ้า อายุการใช้งานชัตเตอร์ยาวนานถึง 500,000 ครั้ง

แบตเตอรี่แบบใหม่ อึดกว่าเดิม 2 เท่า

มีช่องเชื่อมต่อมากมายทั้ง USB 3.1 Type C USB 2.0 Micro HDMI Sync Terminal รองรับการใช้งานในระดับมืออาชีพ

มาพร้อมเลนส์ Normal Zoom ตัวใหม่ล่าสุด FE 24-105mm F4 G OSS

ราคาเปิดตัวในไทย 114,990 ราคาช่างน่าคบหาจริงๆ

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆของ Sony มาเปิดตัวในงานนี้อีกด้วย

ใครมางาน Photo fair ซื้อของครบตามเงื่อนไข ได้รับ Sony 4K TV ไปเลยฟรีๆ นะจ๊ะ

ช่วงการแชร์ประสบการณ์การใช้งาน Sony A7R Mark iii ของ brand ambassador ทั้ง 3 ท่าน

สำหรับ Sony A7R Mark III ราคาเปิดตัวในไทยนั้นอยู่ที่ 114,900 บาท จะเริ่มจำหน่ายประมาณวันที่ 5 ธันวาคม 2560 ใครที่สนใจสามารถมาลองเล่น ลองทดสอบได้ในงาน Photo fair 2017 ที่จัดขึ้น ณ ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ไปจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2560 นะครับ