กล้องรุ่น V1 ในตระกูลกล้องใหม่ Nikon 1 ในรูปแบบกล้อง mirrorless ที่เริ่มจัดจำหน่ายไปเมื่อ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางนิคอนได้ให้นิยามกล้องในรูปแบบ Mirrorless ของตัวเองว่า CX format ใช้เซ็นเซอร์รับภาพ แบบ CMOS Sensor มีอัตราคูณทางยาวโฟกัส 2.7 เท่า พร้อมด้วยเลนส์ในตระกูลเลนส์ใหม่เช่นกันภายใต้ชื่อ 1 Nikkor
อุปกรณ์ที่ได้รับมาพร้อมตัวกล้อง Nikon V1 ประกอบด้วย เลนส์ 3 รุ่น คือ Nikkor 10mm f/2.8, Nikkor 10-30mm f/3.5-5.6 และ Nikkor 30-110mm f/3.8-5.6 พร้อม Hood เรียกว่าครบช่วงขาดเพียงเลนส์เอนกประสงค์ Nikkor 10-100mm f/4.5-5.6 VR ที่มีหน้าเลนส์ใหญ่ถึง 72มม. ขณะที่ตัวอื่นมีขนาดเพียง 40.5มม. และมีสีเลนส์ให้เลือกใช้ตรงกับสีบอดี้ของคุณ ซึ่งภายในต้นปีหน้าจะมี Mount Adapter ทำหน้าที่แปลงเลนส์ F-mount มาใช้ร่วมกับกล้องตระกูลนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบในระบบออโต้โฟกัสด้วยราคาตัวเลขสี่หลัก ทีเด็ดของกล้องจิ๋ว...แต่แจ๋ว กล้อง Nikon V1 มาพร้อมเลนส์ชุด KIT 10-30มม. (27 – 81มม.) ออกแบบโดยใช้โครงสร้างวัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ มีช่องมองภาพแบบอิเล็คทรอนิคส์ (EVF) ความละเอียดถึง 1.4 ล้านพิกเซล อาศัยชิปหน่วยประมวลผล Expeed 3 เซ็นเซอร์แบบ High Speed AF CMOS ความละเอียด10.1 ล้านพิกเซล แม้หลายท่านอาจมองว่าไม่มากแต่ก็เป็นเซ็นเซอร์ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่น D7000 เพียงแต่ลดขนาดเซ็นเซอร์ลงรายละเอียดด้านต่างๆเหมือนเดิมดังนั้นจึงคลายกังวลในเรื่องคุณภาพไปได้ อีกทั้งในสภาวะสภาพแสงน้อยกล้องก็ยังสามารถตอบสนองได้รวดเร็ว และแม่นยำ ประการสำคัญคือประหยัดแบตเตอรี่ (ใช้แบตเตอรี่รุ่นเดียวกับ D7000) แม้จอ LCD จะมีขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 921,000 พิกเซล
กล้อง Nikon V1 มีฟังก์ชั่น Picture Control สามารถเลือกโทนสีภาพได้หลายหลายโดยเฉพาะในแบบ Monochromeที่เลือกปรับความคมชัด โทนสี และความเข้มอ่อนได้อย่างสนุก ลองชมภาพตัวอย่างที่บันทึกภาพด้วยเลนส์ 30-110 มม. ที่ช่วง 30 มม. F/3.8, 1/20 วินาที, ISO 800 เลือกการวัดแสงแบบ เฉลี่ยทั้งภาพ (Matrix Metering) ลองปรับค่าความไวแสงในโหมดการถ่ายภาพ แบบอัตโนมัติ กล้องจะคงค่าเอฟที่ 5.6 ความเร็วชัตเตอร์แปรผันตามการปรับค่า ISO โดยตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ว่า Nikon1 จะทำข้อสงสัยเรื่องเซ็นเซอร์ที่มีขนาดเล็กได้ดีเพียงใด
กล้อง Nikon V1 บันทึกภาพเคลื่อนด้วยรูปแบบวิดีโอ ระดับ Full HD และรูปแบบภาพนิ่งผสมผสานกับวิดีโอที่เรียกว่า Motion Snapshot พร้อมใส่เสียงดนตรีประกอบที่มีให้เลือก 4 รูปแบบ คือ Beauty / Waves / Relexation / Tenderness เพียงกดเลือกที่ปุ่ม F ข้างก้านโยกปรับขยายภาพ ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้การนำเสนอภาพนิ่งด้วยกล้องมีสีสันขึ้นมาก
จุดเด่นของกล้อง Nikon V1 อีกอย่างคือ ความเร็วในการโฟกัสด้วยระบบ Hybrid AF ที่กล้องจะเลือกระหว่างแบบ Phase Detection AF ที่ใช้ในกล้องกลุ่ม DSLR เป็นหลัก กับแบบ Contrast Detection AF ที่นิยมใช้ในกลุ่มกล้องคอมแพค ซึ่งหลายๆจังหวะทึ่งกับการทำงานได้สมคำโฆษณาไม่มีออกอาการวืดวาดในการหาโฟกัสแม้ในที่แสงน้อย
เมื่อออกไป PLAY... จุดเด่นของกล้อง Nikon V1 แต่ละจุดถูกถ่ายทอดผ่านเลนส์ทั้ง 3 ตัว ที่หยิบยืมมาโดยสลับกันใช้ไม่จำเพาะว่าจะใช้ในสถานการณ์ใดเพื่อเฉลี่ยการใช้งานให้หลากหลาย แต่เลนส์ fix 10 มม. แลจะมีภาษีดีกว่าเพื่อน เมื่อใช้งานในบริเวณที่สว่างช่องมองภาพแบบอิเล็คทรอนิคส์ทำงานได้ชัดเจนสะดวกคล่องตัวไม่เปลืองพลังงาน จุดที่ต้องชม คือน้ำหนักของกล้องที่ช่วยให้ความรู้สึกมั่นคง และแข็งแรง ช่วยชดเชยขนาดบอดี้เล็กแล้วจะทำให้จับถือไม่ถนัดหมดไป เพราะเปลี่ยนจากการจับเป็นการกำกล้องให้กระชับแทน ซึ่งช่วง Play สายคล้องมือถูกนำมาใช้ทดสอบแทนสายคล้องคอที่มีมาในกล่องเพื่อให้ได้อารมณ์กล้องเล็ก...หัวใจใหญ่ ผลลัพธ์ก็ไม่ทำให้เกิดความเมื่อยล้าจากการจับถือเลย บางท่านไม่ทันสังเกตอาจคิดว่าใช้ Nikon Coolpix 7100 บทพิสูจน์ที่ต้องชม คือ การแสดงผลเกินความคาดหมายในเรื่อง Noise อันเป็นที่ปรามาสของคนใช้กล้องใหญ่มาก่อนว่าคงรอดยากจากเซ็นเซอร์ที่มีขนาดเล็ก ซึ่งภาพจากด้านบนคงทำให้ท่านอดสงสัยไม่ได้ว่าภาพเดียวกันหรือเปล่า(นี่ขนาดเป็นไฟล์ JPEG) หากใช้เลนส์เกรดโปรคงทำได้เยี่ยมกว่านี้แน่นอน เรียกว่าสอยไปดูแลก่อนแล้วค่อยซื้ออะแด็พเตอร์ไปต่อกับเลนส์เม้าท์ F ก็ไม่สายคงมีใครหลายคนที่ให้ความคิดเห็นเช่นนี้ White Balance เป็นอีกจุดที่มีความยืดหยุ่นสูง ในแต่ละอุณหภูมิสียังสามารถปรับค่าได้อีกเหมือนกล้องรุ่นใหญ่ทำให้การถ่ายภาพในสภาพแสงยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่าย สาวกของ Nikon คงไม่พลาดไปทดสอบประสิทธิภาพที่ BIG Camera แล้วอย่าลืมมารับไปดูแลให้ครบทั้งระบบเพื่อคุณภาพของภาพอันเยี่ยมยอด สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลข 0-2809-9956-65
|
NIKON 1 V1
By
-
December 26, 2011
3438 อ่าน