![]() |
![]() |
Canon EOS-1D X กล้องสำหรับมืออาชีพรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะมาต่อยอดความสุดยอดแทนรุ่นเดิม Canon เผยโฉม EOS-1D X กล้องสำหรับมืออาชีพรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสมบุกสมบัน รองรับการใช้งานในระบบดิจิตอลมากขึ้นด้วยการทำงานแบบไร้สาย และทราบพิกัดจุดการบันทึกภาพได้ทันที แต่ยังคงไม่ใช่ภายในปีนี้นักถ่ายภาพต้องรอไปถึงไตรมาสแรกของปีหน้าจึงจะมีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งทำให้หลายท่านมีโอกาสเตรียมตัวเก็บเงินสร้างรายได้ไว้สำหรับค่าตัวเรือนแสนของว่าที่กล้องคู่ใจตัวใหม่ ก่อนถึงวันนั้นเราลองไปดูรายละเอียดของกล้องในแต่ละจุดว่ามีการพัฒนาจากรุ่นเดิมอย่าง EOS-1D Mark III / IV ไปอย่างไรบ้าง จะสูงกับคู่แข่งต่างค่ายได้หรือเปล่า เพราะหลายท่านมองหน้าตาภายนอกก็จะเห็นว่าดุดันขึ้น แต่จะมีความเปลี่ยนแปลงภายในอย่างไรบ้าง ลองไปพิจารณากัน...
เซนเซอร์ CMOS ขนาด Full Frame ความละเอียด 18.1 MP EOS-1D X เลือกใช้เซ็นเซอร์ขนาดฟลูเฟรม (24 x 36 มม.) เพิ่มความละเอียดเป็น 18.1 ล้านพิกเซล (ใน MarkIII 10.1 MP)ช่วยทำให้สามารถรองรับการทำงานร่วมกับเลนส์ได้มากมายในตระกูลเลนส์ EF และประสิทธิภาพการนำไปใช้ในงานสิ่งพิมพ์ก็เพิ่มขึ้นทั้งจากขนาดของเซ็นเซอร์ และความละเอียดที่ได้รองรับกับงานพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ โปรเซสเซอร์ใหม่ แบบ Dual Digic5+ สำหรับกล้องระดับมืออาชีพที่ต้องใช้งานสมบุกสมบัน ชิปประมวลผลต้องมีความชาญฉลาด และว่องไว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้การทำงานควบคู่กัน แบบ Dual (คล้ายกับคอมพิวเตอร์) เพื่อเพิ่มความเร็วในการสั่งงานให้สูงขึ้น ความสามารถในการลดสัญญานรบกวน (Noise) ย่อมดีข้นด้วย ทำให้ความไวแสงเริ่มต้นที่ ISO100 จนถึง 102400 (204800 with boost) เรียกว่าสภาพแสงต่ำแค่ไหนกล้องตัวนี้พร้อมทำงานทุกสภาพแสง ถ่ายภาพความเร็วต่อเนื่อง 12 ภาพ/วินาที เพื่อรองรับกับความต้องการของมืออาชีพในการบันทึกภาพต่อเนื่องที่ความเร็วสูง กล้อง EOS-1D X จึงเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการใช้งานสูงสุดถึง 12 ภาพ/วินาที ที่ความละเอียดสูงสุดทั้งไฟล์ Jpeg และไฟล์ RAW นอกจากนั้นหากใช้ระบบล็อกกระจกสะท้อนจะสามารถทำความเร็วได้เพิ่มขึ้นเป็น 14 ภาพ/วินาที ระบบการโฟกัสอัตโนมัติใหม่ 61 จุด (61-Piont High Density Reticular AF)
ในสภาพแสงต่ำเป็นปัญหาของการโฟกัสเมื่อเลือกหน้ากล้องตามที่ต้องการไม่ได้ ด้วยการเพิ่มระบบโฟกัสภาพแบบใหม่ที่มีมากถึง 61 จุด แบ่งเป็นส่วนกลาง 21 จุด โดยมี 5 จุดตรงกลางที่ไวต่อการค้นหาโฟกัส ในเมนูจะสามารถเลือกตำแหน่งการโฟกัสได้ (คล้ายกับในรุ่น7D) จะช่วยให้การทำงานมีขีดจำกัดลดลงไป จอ LCD ขนาด 3.2 นิ้ว ใหม่... ตำแหน่งการวางปุ่มต้องปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เนื่องจากจอภาพแสดงผลมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 3.2 นิ้ว ความละเอียดสูง 1.04 ล้านจุด เรียกว่าถ่ายทอดโทนสีได้คมชัด สมจริง เหมาะสมทั้งการใช้สำหรับถ่ายภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวในการมองภาพโหมด Live View ต้องขอบอกว่าคุณสมบัติหลักที่ได้รับการพัฒนาให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นนั้นคงเป็นที่ถูกใจนักถ่ายภาพที่ตั้งตารอคอยกันมาเรียกว่าไม่ผิดหวัง นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพอีกหลายอย่างที่รองรับเทคนิคการใช้งานอย่างจุใจ อาทิ การถ่ายภาพซ้อน, ระบบ EOS iTR, Exposure Control ส่วนอุปกรณ์เสริมก็มีเพิ่มเติมทั้งในส่วน GP-E1 เพื่อบอกพิกัดในระบบ GPS หรือการส่งข้อมูลด้วยระบบ LAN ด้วย WFT-E6
อย่างไรก็ดีคงต้องรอจนถึงมีนาคมปีหน้าถึงจะได้ทดลองของจริง และทาง BIG CAMERA เองก็ไม่พลาดที่จะนำเข้ามาจัดจำหน่ายให้นักถ่ายภาพเมืองไทยได้จับจองเป็นเจ้าของแน่นอน ติดตามรายละเอียดผ่าน www.bigcamera.co.th ไว้ให้ดีมีความคืบหน้าอย่างไรจะรีบนำเสนอให้ทราบทันที... |